อาห์ เนื่องจากอินเนอร์มอนขี้เกียจแต่งแล้ว
จึงมาแบบย่อครึ่งนึง แบบเต็มรูปแบบครึ่งนึงนะจ๊ะ
หวังว่าท่านผู้อ่านคงไม่ว่ากันนะจ๊ะ
********************************************
Once Upon a Time… When My Heart Was Broken มาจะกล่าวบทไป
ถึงพี่แว่นแสนซึนผู้เรืองศรี
หลังจากถูกหักอกไม่มีชิ้นดี
ก็รีบรี่ยกทัพกลับบ้านมา
บรรจงเปิดฝาเปียโนแล้วบรรเลง
เป็นบทเพลงของเจ้าเสน่หา
แต่ฟังมิอ่อนหวานเหมือนก่อนมา
หากโศกาทุกข์ทนระทมใจ
(ข้างบนแอบเกรียนวุ้ย...นั่นแบบย่อนะ ขี้คร้านเขียน ห้าๆๆๆๆ มาดูแบบเต็มรูปแบบล้างตาเอาแล้วกัน)
แม้ว่าสิ้นเสียงโน้ตตัวสุดท้ายไปนานแล้ว แต่ชายหนุ่มยังเหม่อมองเปียโนอยู่นาน จนเสียงฝีเท้าทำให้เขาหลุดจากห้วงภวังค์ เมื่อเหลือบมองผู้มาเยือน เขาก็ผินหน้าไปทางเปียโนอีกครั้ง
ดวงตาสีอำพันของผู้มาใหม่มองบุคคลตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มองหน้าตนเลยก็ตาม และแล้วผู้มาเยือนก็ทำสิ่งที่ชายสวมแว่นไม่คาดฝัน ชายคนนั้นสวมกอดเขาแน่น
“ปล่อย... อย่ามายุ่งกับฉัน... จะไปไหนก็ไป...” ชายเจ้าของดวงตาสีครามกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดุดันเหมือนอย่างเคย หากแต่กลับฟังเศร้าสร้อยเหลือเกิน
“ไล่ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ฉันไม่ไปหรอกนะ...”
ผู้เป็นพี่ไม่ทำตามที่น้องสั่ง หากแต่ยังกอดคนตรงหน้านิ่ง ทั้งสองอยู่นิ่งในท่านั้นชั่วขณะหนึ่ง
“ความเจ็บปวดจงหายไป...” ผู้เป็นพี่เอ่ยอย่างอ่อนโยน ครั้นแล้วก็ประทับจุมพิตลงบนหน้าผากคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ดวงตาสีอำพันที่มองผู้เป็นน้องฉายแววสื่อบางอย่าง
“ห่วยชะมัด...” หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลผ่านดวงตาสีคราม “ไม่เห็นหายเจ็บเลยซักนิด...เวทมนตร์บ้าอะไรกัน...”
เจ้าของเรือนผมสีเกาลัดกอดน้องชายของตนอีกครั้ง แล้วลูบผมสีนิลอย่างเบามือ ชายอ่อนวัยกว่ารู้สึกถึงความอ่อนโยนที่ส่งผ่านฝ่ามือแสนอบอุ่นนั้น เป็นความอ่อนโยนเดียวกับเมื่อครั้งที่คนตรงหน้าเคยทำแผลให้สมัยเขายังเด็ก
“ฉัน...เกลียดนายที่สุดเลย...” ชายเจ้าของดวงตาสีครามเอ่ยอย่างแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบ เขากอดตอบชายตรงหน้าทั้งน้ำตาอย่างแช่มช้า แล้วซบหน้าลงบนไหล่ของอีกฝ่ายราวกับอยากซ่อนความอ่อนแอไม่ให้ใครเห็น แต่ถึงกระนั้นชายผมสีเกาลัดยังสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณไหล่ตน
“อืม...รู้อยู่แล้วล่ะ...” ผู้เป็นพี่ขานรับเบาๆ พลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
********************************************
ตอนแรกว่าจะแต่งเนื้อเพลงให้พี่แว่นร้องด้วย
แต่นั่นแหละ มันเกิดอาการขี้เกียจขึ้นมากะทันหันอะ =3=