where no man has gone before
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


โลกอิสระแห่งจินตนาการที่ทุกคนใช้พักผ่อนจากงานหนัก
 
บ้านประกาศGalleryLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)
เข้าสู่ระบบ(Log in)
Username:
Password:
เข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติทุกครั้ง(Log in automatically): 
:: ลืม(forget) password
ผู้ที่กำลัง online
ผู้ที่ online ทั้งหมด 1 คน :: ลงทะเบียน 0 คน, ซ่อน 0 คน และ 1 ผู้มาเยือน

(ไม่มี)

มีผู้ใช้ online พร้อมกันสูงสุด 181 คน เมื่อ Sat Jun 26, 2021 10:53 pm
Latest topics

 

 Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]

Go down 
3 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Shou-B
ดราม่า สตาร์
ดราม่า สตาร์
Shou-B


จำนวนข้อความ : 388
Popular Vote : 0
Join date : 16/12/2010

Character sheet
สถานะ: ป่วยปางตาย
Pet's Name: โม่ส่า

Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]   Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] EmptyMon Jan 17, 2011 5:05 pm

อ่านก๊อน อ่านก่อน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังอีเวนท์
- "โชว์ตกหลุม"(รัก 55) ซึ่งอินเนอร์มอนยังไม่เอามาลง 55
- และไปช่วยขึ้นมาได้แล้วในอีเวนท์ "มอนขุดดิน"
ซึ่งอินเนอร์โชว์ก็ยังไม่เอาลงเช่นกัน (183 หน้า เล่นไรกัน ไอ้บ้า!!!)
- แล้วยังมีดราม่าต่อเนื่องกับอีเวนท์ "ปลุกเจ้าหญิงนิทรา" อีก!!!
มีลิงค์เมื่อไหร่จะมาแก้ละกัน

ณ เวลานี้ ขอเชิญท่านรับชมดราม่าอินเซปต์ชั่น XD

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Great Dream... Awaken

โลกที่เรายืนอยู่นั้นคือความจริง หรือความฝันอันแสนยาวนานกันนะ


ด้วยเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ที่บรรเลงด้วยท่วงทำนองที่ชวนให้หวนคะนึงหา
ลอยแว่วมายังโสตประสาท จึงช่วยไม่ได้ที่ทำให้เจ้าของดวงตารีเล็กคู่หนึ่ง
ค่อยๆ บังคับเปลือกตาให้ลืมขึ้นมาอย่างแช่มช้า

“เราไม่ได้ยินเสียงขลุ่ยมานานเท่าไหร่แล้วนะ”
จิตใต้สำนึกตั้งคำถามกับตนเอง และตอบตนเองในใจ

ตั้งแต่อาป๊าเสียไป ก็ไม่เคยมีใครหยิบขลุ่ยเลานั้นขึ้นมาเล่นอีกเลย
แม้แต่เราเอง... ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะหยิบขึ้นมาเล่นตั้งแต่วันนั้น


ชายหนุ่มในชุดแพรจีนปักดิ้นทองเป็นลวดลายดอกเบญจมาศงดงามเดินกรุยกรายลุกจากเตียงอย่างยากลำบาก เพราะชุดเสื้อผ้าที่ยาวพริ้วและเต็มไปด้วยเครื่องประดับจนดูเกินพอดีของเขา
แม้ว่าจะไม่ชอบเพียงไร แต่เขาก็จำเป็นต้องสวมใส่เครื่องแต่งกายเหล่านั้น
เพื่อให้สอดรับกับสมญา “คุณชายแซ่โชว์” ซึ่งกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็น “นายใหญ่ตระกูลโชว์”
ในทันทีที่พิธีสมรสของเขากับหญิงสาวนิรนามที่มารดาจัดหามาให้สิ้นสุด

สมบัติ และกิจการอันประเมินค่ามิได้แห่งตระกูลโชว์จะตกเป็นของเขา

ความคำนึงถึงอิสระที่จะขาดหายไปในไม่ช้า อดที่จะพาให้สองขาของชายหนุ่มก้าวไปยังหน้าต่างบานใหญ่เบื้องหน้า ทว่าซี่กรงเหล็ดดัดลวดลายงดงามนั้นกลับทำให้เขามีสภาพไม่ต่างไปจากนกในกรง

“โม่ส่าไปไหนแล้วนะ อยากจะเล่าความฝันวันนี้ให้ฟังสักหน่อย”
สายตาของชายหนุ่มกวาดมองไปทั่วท้องฟ้าที่เขาไม่มีวันได้สัมผัส
เพื่อมองหาเพื่อนเพียงคนเดียวที่จะช่วยเขาคลายเหงาได้

ทว่าก็ไม่มีแม้แต่วี่แววของมัน...

ชายหนุ่มได้แต่ถอดใจ และนั่งลงบนโต๊ะหนังสือซึ่งหันหน้าสู่ฟ้ากว้างเบื้องหน้า และเริ่มต้นหยิบตำราแพทย์มาทบทวน หากแต่เขาก็ไม่มีสมาธิที่จะทนอ่านหนังสือเล่มเดิมซ้ำได้

เพราะใจของเขานั้นได้จดจ่ออยู่กับฝันกลางวันที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาเคยฝันมา

“สายลมเอ๋ย... อย่างน้อยก็ช่วยรับฟัง และฝากไปบอกเจ้าเหยี่ยวผู้สง่างามตัวนั้นหน่อยก็แล้วกัน...”

“ผมฝันว่าตัวเองอยู่บนเรือลำเล็กๆ ซึ่งผมได้มาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
ได้ใช้ชีวิตโดยทิ้งกฏเกณฑ์ทั้งปวง”

“ได้พบผู้คนมากมายที่เห็นผมเป็นเพียงวณิพกธรรมดา...
อย่างกับฝันไปเลยใช่มั้ยล่ะ”

“ได้เห็นโลกใต้พิภพ โดนสัตว์ร้ายไล่ตาม
แล้วก็ช่วยปกป้องผู้หญิงแปลกหน้าอย่างกับพระเอกในนิยายแน่ะ”

“แล้วก็ได้ไปเที่ยวตั้งหลายที่ ไม่ได้ไปเที่ยวคนเดียวด้วยนะ แต่ผมไปกับ.....”

น้ำเสียงร่าเริงที่เฝ้าพูดกับตนเองนั้นหยุดชะงักกระทันหัน เพราะเขาไม่อาจที่จะพูดพร่ำต่อไปได้อีก

“กับใครกันล่ะ.....?”
พริบตาที่ภาพในความทรงจำจวนจะแจ่มชัด หากแต่มันกลับลางเลือนไปอีก
ซ้ำยังมีเสียงร้องเรียกชื่อคนที่เขาไม่เคยรู้จักซ้ำไปมาในโสตประสาทของเขา

“โม่ส่า ไอ้นกบ้า!”
ใช่... โม่ส่ามันเป็นนกต่างหาก ไม่ใช่คนสักหน่อย
แม้จะบอกกับตนเองอย่างนั้น แต่ในจิตใจของเขาก็ปฏิเสธอยู่ลึกๆ ว่ามันไม่ใช่

“ยัยคุโร่เหมียว เดี๋ยวเหอะ!”
“บรูโก เธอนี่มัน... น่าร๊ากที่สุดในโลกกกก”
“โซระ ฉันอยากมีนกพูดน้อยๆ แบบนี้มั่งจังเลยยยย”
ไม่ใช่! เราไม่รู้จักคนพวกนี้

ถึงแม้ว่าเสียงเหล่านี้จะเป็นเสียงของเราก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางที่เราจะพูดกับใครด้วยน้ำเสียงแบบนั้นได้หรอก


“นักล่องหนเหรอ ชื่อยาวจัง ผมเรียกคุณว่า คุณจาง ดีกว่า”
“ยัยเด็กวัว!!! ต้องเจอนี่ German Suplexxxx!!!!”
เสียงรบกวนนี้อดที่จะทำให้ชายหนุ่มยิ้มมุมปากไม่ได้
เขาเคยดูรายการมวยปล้ำตั้งแต่ยังเด็ก และคิดจะเล่นมวยปล้ำกับใครบางคนมาตลอด
เจ้าของเสียงนี้ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาจริงๆ เลยนะ


“หวาๆๆๆๆ คุณอัน อย่ายิง อย่าแทง ปล่อมโผมมมมมมม”
“ท่านหวี ปล่อมโพ๊มมมม อย่าแกล้งผมน๊า”
“ท่านเจ้าคุณเรอะ เชอะ รักแท้ แพ้แอดมิน”

เจ้าของเสียงช่างเป็นช่างเป็นคนที่สร้างความปวดหัวให้กับใครหลายคนจริงๆ
แต่เขาก็น่าจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยล่ะ


“คุณมอน.....”
ใครกันนะ.....?

“มอนเต แคสสิโน่ ฟิโอเร่”
นี่มันชื่อของใครกัน...?

ทำไมการนึกถึงความฝันถึงทำให้เจ็บปวดแบบนี้นะ
ทำไมความฝันถึงไม่จางหายไปกับความจริงสักที
ทำไมมันถึงเด่นชัดราวกับเป็นความจริงอย่างนี้ล่ะ.....

“พอเถอะ... หลุดจากฝันซักที ไม่มีทางที่เราจะได้รับความสุขแบบนั้นหรอก”
เสียงเครือพูดกับตนเองเบาๆ ใบหน้าก้มต่ำของเขาปฏิเสธที่จะยอมรับความอ่อนแอของตน

“เจ้าบ้า... ตื่นสักทีสิ”เสียงใครสักคนแทรกแซงเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง

“ใครน่ะ...?” ชายหนุ่มมองไปรอบห้องกว้างเพื่อหาที่มาของเสียง
หากแต่เขาก็ไม่ได้พบใครนอกจากเงาของตน
“หูคงจะแว่วไปล่ะมั้ง....”

ตื่นเหรอ? ตื่นจากอะไรล่ะ?

จิตใต้สำนึกตั้งคำถามกับเสียงที่แว่วเข้าหูซ้ำไปมา
และเมื่อไม่พบใคร เขาจึงตั้งข้อสังเกตใหม่กับตนเอง

“ว่าแต่ใครเป่าขลุ่ยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
เพื่อขจัดข้อสงสัยนั้น เขาจึงได้เลือกที่จะเปิดประตูห้องออกไปภายนอก
หากแต่อะไรบางอย่างทำให้เขาหยุดยั้งการกระทำนั้น

“หากเปิดประตูออกไป แล้วความฝันแสนวิเศษเมื่อครู่คงไม่มีทางเกิดขึ้นมาอีกแล้วใช่ไหม.....”

ชายหนุ่มถามกับตนเองเบาๆ โดยไม่มีเสียงตอบกลับ หากแต่เขาก็รู้คำตอบนั้นดีอยู่แก่ใจ

ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไปยอมรับกฏเกณฑ์ที่ตระกูลของเขาสร้างขึ้นมา
เขาอาจจะไม่มีวันได้ออกจากกรงทองซึ่งคุมขังอิสรภาพของเขาอีกเลย

“ขอถ่วงเวลาให้นานกว่านี้อีกสักหน่อยก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มปฏิเสธอิสรภาพเบื้องหน้า และหันไปหากรงทองดั้งเดิมที่หน้าต่างอีกครั้ง
สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่บนนภาที่ปีกของเขาไม่มีวันโบยบินไปถึง
แล้วจึงผินหน้าลงไปเบื้องล่าง ซึ่งก็คือทุ่งดอกเบญจมาศสีแดงสุดลูกหูลูกตาที่มารดาเขาทะนุถนอมด้วยความรักหนักหนา
ที่แห่งนั้นเอง... มีสตรีนางหนึ่งยืนจ้องมองท้องฟ้าอยู่เช่นเดียวกับเขา
ด้วยกิริยาซึ่งงามสง่าไม่แพ้ดอกไม้ในสวนเลย

เธอนี่เอง.. “เหม่ย ลี่ฮวา” ภรรยาในอนาคตของเรา
แม้ฐานะของหล่อนจะเป็นเช่นนั้นแต่หน้าตาของเธอเราก็กลับไม่เคยเห็นสักครั้ง
ทุกครั้งที่เธอเข้ามาพบตระกูลโชว์พร้อมญาติผู้ใหญ่ เธอจะปิดหน้าตาของหล่อนด้วยผ้าแพรแดงผืนแดงตามธรรมเนียม
และแม้จะได้พบกันตามลำพังหลายครั้ง แต่คำพูดเดียวที่หล่อนเคยพูดกับเราคือ....

คือ................

.....


“เธอพูดอะไรกับเรากันนะ?”

อะไรบางอย่างได้บอกกับเขาว่าคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีวันลืมได้ลง
แต่สภาพจิตใจที่สับสนของเขาในตอนนี้ กลับยากยิ่งเหลือเกินที่จะนึกถึงอะไรได้ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือความจริงก็ตาม

“ฉันจะถามเธออีกครั้งได้หรือเปล่าล่ะ ลี่ฮวา?”
ชายหนุ่มพูดกับคู่หมั้นซึ่งอยู่ห่างกัน ดั่งภูผาและก้นทะเล
แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหันมามองเขาซึ่งอยู่บนหอคอยราวกับได้ยิน

ชายหนุ่มเลิกตั้งข้อสงสัยกับตนเอง และโลกภายนอก
เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้งโดยไม่อยากนึกถึงอะไรอีกต่อไป

แบบเดียวกับที่เขาทำกับตนเองบ่อยๆ ด้วยความเคยชิน...

แต่ความเคยชินนี้ไม่ทำให้ โชว์ ปัง เอะใจแม้แต่น้อยว่าแท้จริงแล้ว
เขาไม่ได้อยู่ในห้องหรือแม้แต่ บ้านที่แท้จริงของตน

หอคอยกระเบื้องจีนซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เพียงลำพังบนผาสูงชัน
นั้นเป็นดั่งปราการที่คุมขังอิสรภาพที่ตนสร้างขึ้นมานั่นเอง


TBC เมื่อท่านหวีออนไลน์

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

แม้โชว์จะชอบดราม่า แต่ดราม่านานๆ ก็ไม่ใช่โชว์นะจ๊ะ
อินเนอร์โชว์ขอเตือน 5555

ป.ล. อินเนอร์โชว์ดูอินเซปชั่น กับมงกุฏดอกส้ม มากไปเลี้ยววววววววว
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=




แก้ไขล่าสุดโดย Shou-B เมื่อ Thu Jan 20, 2011 9:48 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
Monte
หนีความจริงขั้นเทพ
หนีความจริงขั้นเทพ
Monte


จำนวนข้อความ : 540
Popular Vote : 1
Join date : 16/12/2010

Character sheet
สถานะ: มนุษย์ต่างดาว
Pet's Name: Brugo

Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]   Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] EmptyMon Jan 17, 2011 5:35 pm



อินเนอร์มอนขอกล่าวว่า....

ทำไมความฝันของคุณชายโชว์ช่าง....


"ดราม่า"...


"เสื่อม"....


และ"เน่า"ได้ขนาดนี้ฟระ - -"


แต่ชอบว่ะ ท่านหวี ออนเร็วเร้วววววววววว

ขึ้นไปข้างบน Go down
Shou-B
ดราม่า สตาร์
ดราม่า สตาร์
Shou-B


จำนวนข้อความ : 388
Popular Vote : 0
Join date : 16/12/2010

Character sheet
สถานะ: ป่วยปางตาย
Pet's Name: โม่ส่า

Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]   Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] EmptyThu Jan 20, 2011 10:00 am

After Story

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์หลังอีเวนท์
[utl=https://secondneverland.thai-forum.net/t79-topic
]“เหตุเกิดเพราะแรด” [/url](ชื่อเสื่อมขริงๆ)
อีเวนท์ซึ่งบรรดาเจ้าชาย ตามไปชกเจ้าหญิงนิทราถึงในฝัน =w=
ตามไปอ่านก่อน เพื่อความเข้าที่มากขึ้นจ้า
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=


“บ๊าย บายครับ คุณโชว์” บรูโก เจ้าคาเมเลี่ยนน้อยในร่างมนุษย์
โบกมือพร้อมกับยิ้มอย่างร่าเริงให้ผมดังเช่นเคย
ส่วนเจ้าของนั้นน่ะเหรอ? เดินสลึมสลือพยักหน้ารับคำกล่าวลาจากผมเมื่อสายัณห์มาเยือน
และจูงมือกับสัตว์เลี้ยงของเขาเดินลงจากเรือ และเข้าไปในป่าตามปกติ

แสงตะวันยามเย็นสาดแสงสีแดงไปทั่วเรือลำน้อยที่ซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรงของเขา
โชว์ ปัง จ้องมองสีไม้ของเรือที่ถูกสีแดงกล้ำกรายอยู่สักครู่หนึ่งแล้วจึงเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
เพราะภาพในความฝันยาวนานที่เพิ่งจะถูกปลุกให้ตื่นเมื่อครู่นั้น มันได้ย้อนกลับมาในห้วงคำนึงของเขาอีกครั้ง

“ความฝันมีตั้งเยอะแยะ จะไปฝันถึงเรื่องพรรค์นั้นทำไมกันนะ”
ผมพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย ที่ยังไม่อาจสลัดภาพทุ่งดอกเบญจมาศนั้นออกไปจากห้วงคำนึงได้

หากแต่คำพูดที่ว่า “ยิ่งอยู่คนเดียว จิตจะยิ่งคิดฟุ้งซ่าน” นั้น
เป็นความจริง ซึ่งผมอยากจะกราบคารวะผู้พูดเป็นคนแรกนัก
แม้แต่ในยามที่โม่ส่า เจ้านกที่เลี้ยงมาแสนนานหนีไปกินข้าวบ้านคุณอัน และยังไม่กลับมาที่เรือเสียที
มันจึงเป็นการช่วยไม่ได้เลยที่ผมจะต้องวนเวียนอยู่ในอดีตเพียงลำพัง

ช่วยไม่ได้นะ คิดซะว่าฆ่าเวลาก็แล้วกัน

มันเป็นเรื่องราวตอนที่ผมคนนี้ยังเป็นเพียงชายหนุ่มวัยเบญจเพส ผู้ซึ่งกำลังเดินใช้ความคิดอยู่ในย่านการค้า
ชื่อดังในไนน่าทาวน์ โดยที่หน้าตาไม่ได้เหมือนกับกำลังคิดถึงหญิงผู้จะมาเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตอยู่เลย

“เหม่ย ลี่ฮวา ทำอย่างไรฉันถึงจะหาโอกาสคุยกับเธอตามลำพังได้นะ”
นี่ล่ะ คือความคิดที่ผมกลัดกลุ้มเหลือเกิน

ใครจะไปเชื่อว่าในสมัยศตวรรษที่ 21 ซึ่งโลกพัฒนาไปไหนต่อไหน...
ถึงจะเป็นบนดินแดนประหลาดๆ นี่ก็เถอะ
ยังมีคู่หมั้นที่เกิดจากการคลุมถุงชน โดยที่ทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง
ไม่เคยเห็นหน้ากันอยู่อีกหรือ?
ไม่สิ... หล่อนน่ะเคยเห็นหน้าเราแล้ว แต่เรานี่สิ นั่งห่างกันแค่คืบ
กลับมีผืนแพรมาบังเสียได้

ไม่ว่าจะพิธีนัดแนะหมั้นหมาย ดูตัว รึแม้กระทั่งพูดคุยกับว่าที่คุณนายโชว์
เราก็ทำได้เพียงนั่งเป็นไม้ประดับให้พิธีครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น
เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง “โชว์ ฟาน” ผู้นำแซ่โชว์
ผู้เป็นมารดาของเรานั้นล้วนจัดการทุกสิ่งอย่างเรียบร้อย

“อาม๊าของผม คือผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลก”
นั่นเป็นหัวข้อเรียงความข้อเขียนสมัยประถมของผม
ไม่ว่าจะเขียนเพราะความไร้เดียงสา หรืออะไรก็ตาม
แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็ยังคงคิดเช่นนั้น
เพราะไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของอาป๊า กิจการในบ้าน
หรือแม้แต่เส้นทางอนาคตของบุตรชายคนเดียวของตนเองก็ได้จัดการได้อย่างดีเยี่ยม นับแต่สามีผู้นำตระกูลได้เสียไป
สุดท้ายก็เหลือเพียงแค่ ส่งมอบอำนาจภายใต้ชื่อ “ตระกูลโชว์” ให้กับเราผู้เป็นลูก
ก่อนที่จะเกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามต้องการเสียที

“ชีวิตมันก็มีแค่นี้ล่ะนะ” คำพูดที่ผมมักจะพูดบ่อยๆ เมื่อรู้ประสา
และรู้อนาคตที่แน่ชัดของตัวเอง
“ทำงาน เก็บเงิน แต่งงาน แล้วก็จบ...”

พรุ่งนี้จะเป็นพิธีหมั้นหมายอย่างเป็นทางการระหว่างตระกูลโชว์ และเหม่ยแล้ว
บางทีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทำความรู้จักเธอ
ก่อนพิธีแต่งงานจริงจะมาถึงก็ได้

อย่างน้อยก็ขอโอกาสได้รักผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาด้วยตัวเองเถอะ

พลันนั้นความคิดมากมายของเราก็ได้ข้อสรุปอยู่ที่ร้านเสื้อผ้าสตรี ไม่สิ...
บางทีคงเป็นชุดแพรสีชมพูปักดิ้นทองหลากสีอย่างประณีตวิจิตร
เป็นลวดลายดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกจัดวางไว้อย่างโดดเด่นในร้าน
นั้นต่างหากที่ทำให้คำตอบในใจเราคลีคลาย

มันเป็นชุดที่งดงาม สมกับที่เกิดขึ้นมาเพื่อเธอ

ไม่ต้องสงสัยว่าชุดแพรนี้จะคู่ควรสมฐานะของเธอหรือไม่
หากแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับอาภรณ์ตัวนี้จะช่วยขับเสริมความงามของ
หญิงสาวออกมาได้มากเพียงไร
ผมไม่รีรอที่จะเดินไปซื้อชุดนั้นไม่ว่ามันจะราคาแพงสักเท่าไหร่
อีกทั้งยังขอให้คนขายช่วยห่อของขวัญด้วยกระดาษลายที่งดงามที่สุด
ให้กับกล่องใส่เสื้อใบนี้

ผมก้าวออกมาจากร้านโดยปราศจากความกลัดกลุ้มของโชว์ ปัง คนเดิมเมื่อครู่
ในใจนึกภาพยามที่ผมมอบของขวัญนี้ให้กับเธอ ยามที่เธอได้เห็นมัน
ยามที่ผมขอดูใบหน้าของเธออย่างชัดเจน และยามที่เราได้พูดคุยกัน
นั่นคงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะเป็นเรื่องราวรักใคร่ของหนุ่มสาวธรรมดาใช่ไหมเล่า? แต่เรื่องมันกลับยังไม่จบนี่สิ...

เมื่อเช้าวันหมั้นหมายมาถึง ผมตื่นแต่เช้าอันผิดปกติวิสัย
ไม่สิ... บางทีผมคงตื่นเต้นจนไม่อาจข่มตาหลับได้ลงมากกว่า
ตระกูลเหม่ยเองก็มาถึงตั้งแต่เช้ามืด พวกผู้ใหญ่ต่างเตรียมงานกันวุ่นวาย
โดยที่ตัวละครสำคัญสองคนไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยสักนิด

จากหน้าต่างนั้นผมเห็นเธอ... เหม่ยลี่ฮวา ว่าที่ภรรยาของผม
หล่อนกำลังเดินเล่นในทุ่งเบญจมาศสีแดงสดอันเป็นดอกไม้ที่มารดาของผมโปรดปรานยิ่ง และนั่นคือโอกาสของผมแล้ว

ผมก้าวลงจากบันไดบ้านในชุดกรุยกรายที่มารดาจัดเตรียมไว้ให้
ก้าวผ่านความวุ่นวายทั้งมวลในตัวบ้านตรงไปยังที่หมายหนึ่งเดียวของผม
และเธอก็ยังคงอยู่ที่นั่น

ทุกอย่างเป็นไปตามความคิดของผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพบกันที่เงียบงัน
ใบหน้าที่ยังคงถูกปิดซ่อนของหล่อน รอยยิ้มที่แต่งปั้นจากใบหน้าของผม
ท่าทีขวยเขินอย่างไว้ท่าของเธอ และ...
“ลองเปิดดูสิครับ” แม้เสียงจะสงบนิ่ง แต่ผมก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าข้างในนั้นร้อนรนไม่ต่างไปจากดอกไม้พวกนี้

หญิงสาวขยับนิ้วเรียวงามค่อยๆ บรรจงเปิดห่อของขวัญอย่างสมเป้นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว หากแต่สิ่งที่เธอพบในกล่องนั้น กลับทำให้ผมเห็นภาพอีกด้านของเธอ

เหม่ยลี่ฮวา หัวเราะด้วยเสียงหวานหูอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป
แม้ท่าทางของเธอจะยังคงไว้ซึ่งมารยาท แต่ก็ไม่อาจลบความงุนงงออกจากใบหน้าผมไปได้

“โรคจิต”

......

ครับ นั่นแหละคือคำพูดคำแรกที่ว่าที่ภรรยาพูดกับผม

“หา?” แน่นอนว่าผมร้องสวนไปโดยไม่ทันที่สมองจะคิดตามทันด้วยซ้ำ
“ฉันคง... รับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ” เธอส่งกล่องของขวัญแห่งความฝันคืนให้แก่ผม
ก่อนจะเดินจากไปอย่างแช่มช้า พลางใช้แขนเสื้อยาวกรุยกรายสีแดงปิดปากเพื่อรักษากิริยาของเธอ
“ซื้อชุดให้คู่หมั้นเนี่ยโรคจิตตรงไหนกัน?” ผมถามกันตนเองซึ่งไม่อาจตอบได้เช่นกัน
แต่เพียงได้เห็นของที่อยู่ในกล่องนั้นจึงได้เข้าใจ
“เฮ้ย!.....”

ชุดพยาบาลมาอยู่ในกล่องได้ยังไงเนี่ย?

ใช่ครับ... ชุดนางพยาบาลสีชมพู แบบมินิสเกิร์ตเสียด้วยนะ
ชุดที่พวกคุณคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั่นแหละ

....

“เธอกลับไปเสียเถอะ” นั่นคือคำพูดที่ผมพูดกับคู่หมั้นอีกครั้งเมื่อพบหน้า มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้า
พวกเราไม่พบกันอีกครั้งในขณะที่พิธีหมั้นเริ่มต้นขึ้น ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายนับสิบ

“พูดอะไรน่ะ เสี่ยวปัง?” เสียงของมารดาฝ่ายผมได้พูดทำลายความเงียบขึ้นมาเป็นคนแรก ด้วยท่าทีที่ไม่พอใจมากๆ เสียด้วยสิ
“อั๊วไม่มีอะไรจะอธิบายทั้งนั้นครับ อาม๊า” มีชีวิตอยู่ในตระกูลมาร่วมยี่สิบปีเพิ่งจะคิดมากบฏเอาวันนี้
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปได้ยังไง แต่ในสมองนั้นผมยังคงคิดอยู่เพียงอย่างเดียว

ผมเก็บความรู้สึกที่ถาโถม และถือโอกาสลุกพรวดเข้าห้องส่วนตัวไปโดยไม่มีเสียงขัด หรือตั้งคำถามอะไรอีก
แต่แน่นอนว่าหลังจากที่ผมจากไป เหตุการณ์ข้างล่างคงจะวุ่นวายพอดู

.....

“ไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลยนี่นา”
ทันทีที่เท้าก้าวเข้าห้อง และปิดประตูบานพับลงได้
คำพูดที่อัดอั้นมานานก็ได้เอ่ยออกมาเสียที

“มันก็แค่ชุดพยาบาล”
ผมก้าวไปยังชุดเจ้าปัญหาที่ถูกวางทิ้งไว้บนเตียง พร้อมตั้งคำถามกับมัน
“มันก็น่ารักดีไม่ใช่เหรอ?” สองมือของผมหยิบมันขึ้นมาดูมันให้ชัดๆ
“ถึงจะสวยสู้ชุดนั้นไม่ได้ก็เถอะ แต่นี่... ไม่คิดจะมีอารมณ์ขันเลยรึไง”
“ลี่ฮวา ฉันคิดว่าถ้าเป็นเธอใส่ชุดนี้ก็คงจะดูดีแน่ๆ ฉันมั่นใจ” ผมพูดกับชูดพยาบาลในมือ

“ต่อให้เป็นเราใส่ก็เถอะ... “ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน
แต่รู้ตัวอีกทีชุดแพรราคาสูงค่าก็ลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง โดยมีชุดสีชมพูเจ้าปัญหานี้ทาบทับลงไปแทนเสียแล้ว
“เห็นมั้ยล่ะ ก็ยังดูดีออก” ผมหมุนตัวดูตนเองในชุดพยาบาลผู้หญิง กับกระจกชัดๆ
มันพอดีตัวผมอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับมันสร้างมาเพื่อผมคนนี้เลย

แต่ดูเหมือนผมจะลืมปัญหาสำคัญที่สุดในชีวิตไป...
และนั่นล่ะ คือจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม


“เสี่ยงปัง ม๊ามีเรื่องต้องคุย” โดยไม่ทันให้ตั้งตัว บานประตูก็ถูกเลื่อนโผงออก
และมารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกก็ยืนอยู่แทนประตูนั้นด้วยทีท่าที่ยากจะคาดเดา
“อาม๊า...” ผมอึ้งไปชั่วขณะ แน่นอนว่าเรื่องมันเกิดขึ้นกระทันหันมาก ไม่มีเวลาให้ผมได้คิดอะไรทั้งสิ้น
และแน่นอนว่าผมไม่มีทางที่จะมีเวลาเปลี่ยนชุดทัน
“เดี๋ยว... อั๊วอธิบายได้นะ”

ต่อให้เป็นแม่ที่แกร่งที่สุดในโลกก็เถอะ แต่จะมีซักกี่คนที่รับภาพซึ่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
กำลังอยู่ในชุดนางพยาบาลสีชมพูสดใส หลังจากที่เพิ่งทำลายพิธีหมั้นหมายไปหมาดๆ ได้
“นั่งลงสิ” อาม๊ากล่าวด้วยน้ำเสียง และอารมณ์ที่ยากจะคาดเดา
แต่ผมได้หันหลังให้หล่อน และทำท่าจะขัดคำสั่งเธอ
“จะหนีไปไหนอีก เสี่ยวปัง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่าแฝงอำนาจไว้ชัดเจน
“มานั่งตรงนี้สิ” อาม๊าถือครองกรรมสิทธิ์ในการนั่งบนเก้าอี้อ่านหนังสือในห้องของผมทันที
และเลือกออกคำสั่งให้ลูกชายมานั่งตรงข้ามกับเธอที่ปลายเตียง
“อาม๊า...”
“อย่าให้อั๊วพูดซ้ำเลยน่า”
“เข้าใจอั๊วหน่อยได้มั้ย...” คำพูดนี้ไม่ได้แสดงความก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่เจือความละอายไว้จนเต็ม
“อย่างน้อยก็ขออั๊วเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ”โชว์ ฟาน ผู้ถืออำนาจสูงสุดในห้องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนให้คำตอบ
“ไม่ต้องหรอก มานั่งเถอะ”

แน่นอนว่าผมอึ้งไม่แพ้พวกคุณหรอก เห็นรึยังล่ะว่า
อาม๊าของผม แกร่งที่สุดในโลก

บทสนทนาเริ่มขึ้นทันทีที่ผมนั่งลง กระโปรงที่เพิ่งจะเคยใส่ครั้งแรกช่างเป็นอุปสรรคในการนั่งเหลือเกิน
“อั๊วรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าวันนี้มันต้องมาถึงสักวัน”
ผมไม่รู้ว่าอาม๊าหมายถึงวันที่ผมจะกบฏต่อเธอ วันที่ผมจะทำลายงานหมั้น
หรือวันที่สักวันเธอจะได้เห็นผมใส่ชุดพยาบาลเต็มๆ ตา....
แต่เป็นการดีกว่าที่ผมเลือกที่จะไม่พูด หรือถามอะไร
“อั๊วคงจำกัดความคิดของลื้อมากไป”
ผมยังคงเงียบ...

“ก่อนอาป๊าของลื้อจะตาย เขาได้บอกกับอั๊วว่า...” อาม๊าว่า และแน่นอนว่าผมสนใจฟังมากเป็นพิเศษ
“ลูกผู้ชายมีความฝันยิ่งใหญ่ ที่ผู้หญิงไม่มีวันเข้าใจ”
“ถึงอั๊วจะไม่เข้าใจลื้อ แต่อั๊วก็เข้าใจอาป๊าของลื้อในที่สุดละนะ” ผมได้แต่พยักหน้าพลางทบทวนคำพูดของหล่อน
ว่าแต่อาม๊าเข้าใจเรื่องอะไรกันนะ? ทำไมถึงต้องจ้องชุดพยาบาลของผมหัวจรดเท้าอย่างนี้ด้วยล่ะ

“ลื้อมีความฝันอยู่ใช่ไหม?” อาม๊าถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง และต้องการคำตอบ
ความทรงจำจึงได้หวนไปยังสัญญาที่เคยให้ไว้กับชายผู้เคยมอบเสียงเพลงอันเป็นที่รักก่อนจะจากลา
“ครับ” สองตาของผมจ้องมองคนเบื้องหน้าอย่างแน่วแน่
“ถ้ายังอยู่ที่นี่ ลื้อคงทำมันไม่สำเร็จหรอก” หล่อนแย้มยิ้มให้กับผมอย่างอ่อนโยน
ทำให้ภายในใจลึกๆ ของผมนั้นพองโตด้วยความปลื้มยืนดี
“แต่ว่า... ก็มีบางเรื่องที่ลื้อควรจะจัดการด้วยตนเอง” อาม๊ามองลงไปยังทิวทัศน์เบื้องล่าง
ผมเองก็ลุกไปมองด้วยเช่นกัน ณ ที่นั้น เหม่ยลี่ฮวายังคงยืนอยู่ราวกับจัดฉาก

หัวใจของผมไม่ต้องการจะรีรอสิ่งใด จึงได้รีบพาตัวเองแล่นลงไปหาเธอ
ด้วยความในใจที่ต่างจากในยามเช้าโดยสิ้นเชิง

แม้ผ้าแพรจะผิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเรากำลังจ้องตากัน
ลี่ฮวาจ้องมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหลบสายตาจากผม ก่อนที่ทันจะได้พูดอะไร

“เธอจะรอ...ได้หรือเปล่า”
บางทีนี่อาจเป็นคำถามง่ายๆ ที่ผมต้องใช้เวลารอยาวนานที่สุดในชีวิต
หลังเวลาการรอคอยผ่านไป ซึ่งไม่รู้ว่ายาวนานเพียงไร
แต่เหม่ยลี่ฮวาก็เลือกที่จะกระทำอะไรบางอย่างในที่สุด
เธอก้มหน้านิ่ง และสั่นเทิ้มไปทั้งกายราวกับกำลังอดทนอะไรบางอย่าง
“ลี่ฮวา?” ผมตรงเข้าไปดูเธอใกล้ๆ แต่ไม่ทันได้ทำอะไร ผมก็รู้สาเหตุในที่สุด

เหม่ยลี่ฮวาได้ใช้เสียงทั้งหมดในชีวิตของเธอ เพื่อหัวเราะดังที่สุดในชีวิตต่อหน้าผม

“อะไรกันเนี่ย?” อีกครั้งที่ผมต้องงุนงงเพราะเธอ แต่แล้วผมก็ได้ล่วงรู้คำตอบโดยไม่ต้องให้เธอบอก

ผมลืมถอดชุดพยาบาลออกครับ
ถึงเรื่องราวอะไรหลายอย่างจะเกิดขึ้นก็เถอะ แต่คำตอบของเธอนั้นก็คือ...

“ค่ะ”
ผมได้ให้สัญญาว่า ผมจะกลับมาเมื่ออายุครบสามสิบ เพื่อให้คำตอบกับเธออีกครั้ง
โดยที่เธอและครอบครัว ไม่จำเป็นต้องรอผมก็ได้

แต่เธอก็ยังคงยืนยันว่าเธอจะรอ

“นี่คุณปังคะ...” ก่อนจะจากกัน เธอได้พูดกับผม ผมไม่ได้ขานรับ แต่ตั้งใจฟัง
“ถ้าหากมั่นใจ... คิก...”

“ถ้าหากมั่นใจแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวสายตาใครหรอกค่ะ”
“หา?”

เธอหมายความว่าอะไรของเธอ (วะ) เนี่ย????


.................

นั่นแหละ เรื่องราวของผมกับผู้หญิงที่น่าหงุดหงิดที่สุดในโลก...

ตอนนั้นผมก็แค่สัญญาให้เวลามันยืดออกไปอีกหน่อยแบบไม่น่าเกลียด
แต่ก็ไม่คิดว่าสองปีมันจะผ่านไปเร็วขนาดนี้

รู้ตัวอีกทีก็.....

สายตาของผมเหม่อมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่เริ่มจะมีชุดผิดปกติๆ น้อยลงไปทุกที

“ความผิดของเธอนะ ลี่ฮวา”

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

เลิฟซีนเสื่อมๆ สไตล์โชว์ ปัง มาเสริฟแล้วคร่า >w<
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปก็ไม่รู้
รู้แค่ว่าอินเนอร์แถได้กระทั่งสาเหตุที่อีโชว์ชอบคอสเพลย์....

หนุ่มสาวเอย....
พวกเธอว์จงเสพย์ดราม่า แถๆ !!!


=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

ขึ้นไปข้างบน Go down
Monte
หนีความจริงขั้นเทพ
หนีความจริงขั้นเทพ
Monte


จำนวนข้อความ : 540
Popular Vote : 1
Join date : 16/12/2010

Character sheet
สถานะ: มนุษย์ต่างดาว
Pet's Name: Brugo

Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]   Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] EmptyThu Jan 20, 2011 10:29 am


อินเนอร์ขอฮา!!!

สรุปมันดราม่าหรือฮาวะเนี่ย 5555

ดราม่าแกแถเจงๆ
ขึ้นไปข้างบน Go down
อาเธอร์
หนีความจริงขั้นเทพ
หนีความจริงขั้นเทพ



จำนวนข้อความ : 649
Popular Vote : 0
Join date : 16/12/2010

Character sheet
สถานะ: คนหนีความจริง
Pet's Name: คุโรและโซระ

Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]   Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว] EmptySat Jan 22, 2011 10:58 am

แถเข้าไปได้นะ มันไม่ใช่ความผิดของลี่ฮวาสักหน่อย ความผิดโชว์อ่ะแหละ ชอบเองแล้วไปโยนความผิดให้คนอื่น ซึนนะเนี้ย
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
Great Dream... Awaken & After Story [มาแว้วว]
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» Witch of the Dream

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
where no man has gone before  :: ห้องสนทนา-
ไปที่: